เวทีสภาผู้บริโภคอาเซียน+3 ประกาศความสำเร็จ ลงนามเอ็มโอยูร่วมมือปราบภัยไซเบอร์ข้ามชาติ

ที่ประชุมสภาผู้บริโภคอาเซียนบวกสาม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในเศรษฐกิจดิจิทัลและเอไอ เผยองค์กรของผู้บริโภคในอาเซียนกังวลอย่างหนักถึงภัยไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายลุกลามอย่างก้าวกระโดด ขณะที่การให้ความรู้กับผู้บริโภคและกฎหมายที่มีอยู่ก้าวตามไม่ทันมิจฉาชีพจนเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชนอย่างร้ายแรง เผยข้อมูลเวียดนามเจ็บหนัก ปี 66 เสียหายสูง 3.6% ของจีดีพี ผู้บริโภคฮ่องกง สูญเงินไม่น้อยกว่า 25 ล้านเหรียญ ส่วนคนไทยไม่น้อยหน้าเงินหายจากกระเป๋าหรือบัญชีธนาคารวันละ 78 ล้านบาท พร้อมประกาศจับมือทำเอ็มโอยูรวมพลังเข้มแข็งเดินหน้าสู้ศึกภัยออนไลน์ปกป้องสิทธิผู้บริโภคระดับภูมิภาค นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือสภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า เวทีการประชุม “สานพลังอาเซียนบวกสาม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในเศรษฐกิจดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในอาเซียน ภายใต้ความร่วมมือของ สภาผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค...

Promom ความทุ่มเทของคุณหมอหัวใจแม่ นำพาธุรกิจเติบโตมั่นคง ส่ง 3 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับเด็ก สูตรนวัตกรรมรางวัลระดับโลก สู่ตลาดไทย

Promom (โปรมัม) มั่นใจเดินหน้าต่อหลังได้รับกระแสตอบรับดีทั่วไทย สานต่อการส่งมอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับพรีเมียมสำหรับเด็กสู่มือคุณแม่ทั่วประเทศ คุณหมอพลอย – พญ.พลอย ศุภนันตฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งแบรนด์ Promom เผยแรงบันดาลใจว่า “วัยเด็ก คือช่วงเวลาสำคัญในการกำหนดศักยภาพของมนุษย์” และ “โภชนาการเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งเสริมให้เด็กทุกคนสามารถเติบโตได้เต็มศักยภาพ” จึงมุ่งหน้าทำพันธกิจของ Promom ด้วยการนำทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก ร่วมกันจัดทำนวัตกรรมสารอาหารที่ทำให้เด็กพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพและเหมาะสมกับเด็กไทยโดยเฉพาะ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสมอง ความสูง ภูมิคุ้มกัน และน้ำนมแม่ โดยสินค้าทุกตัวใช้สารสกัดที่ดีที่สุด ปลอดภัย และมีงานวิจัยที่ตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยศ.ภญ.ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณบดี คณะเภสัชฯ จุฬาฯ ทั้งยังได้รับรางวัลนวัตกรรมสารอาหารระดับโลกมาการันตีคุณภาพอีกด้วย หมอพลอยเล่าเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลธนาคารกรุงเทพ ตลาดสินค้าแม่และเด็กในประเทศไทยมีมูลค่า 40,300 ล้านบาทในปี 2564 และแม้ปัจจุบันแนวโน้มเด็กเกิดใหม่จะลดลง แต่ Promom ยังมียอดขายที่เติบโตสองหลักในทุกเดือน มีอัตราการซื้อซ้ำสูงกว่า 50% และตั้งเป้าโตถึง 200 ล้านบาทในปลายปีนี้ “พ่อแม่ยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สำหรับลูกมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับปณิธานการทำงานของ Promom ที่เน้นส่งต่อผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมถึงมือคุณแม่ทุกคน”   ทั้งนี้ Promom ยังประกาศเปิดตัว พรีเซนเตอร์คู่แม่ลูก “ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” พร้อม ลูกชาย “น้องกวิณท์” ในฐานะลูกค้ายาวนานของ Promom โดยริต้าวางแผนจะเผยความประทับใจในผลลัพธ์ที่เห็นจริง จากการที่ให้น้องกวิณท์กินผลิตภัณฑ์เป็นประจำมานาน มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ Promom 3 สูตร Multi IMMU 24+ ส่งเสริมเรื่องภูมิคุ้มกัน DHA Probio...

ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ไตรมาส 4/2567

การค้าโดยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นโอกาสที่ดีต่อการขยายการส่งออกไทย เล็งเห็นว่ารัฐบาลควรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการจีน ร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นายณรงค์ศักดิ์  พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน  เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีนประจำไตรมาสที่สี่ ปี 2567 ระหว่างวันที่  15 ถึง 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยผู้ตอบการสำรวจประกอบด้วย ประธาน คณะกรรมการกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการบริหารและกรรมการหอการค้าไทยจีน ผู้บริหารและกรรมการสหพันธ์หอการค้าไทยจีน และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทยจีนอีก เป็นจำนวนทั้งหมด 485 คน ที่ตอบแบบสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าว คำถามในครั้งนี้มีสองส่วนด้วยกัน ในส่วนแรกเกี่ยวข้องกับการค้าผ่านสื่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และในส่วนที่สองเป็นคำถามที่เกี่ยวกับสถานการณ์การค้าของไทย โอกาสความร่วมมือกับจีน และข้อเสนอแนะต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย  การค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อกลางสำคัญในการเชื่อมโยงการค้าขายระหว่างผู้ค้าและลูกค้า และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของประเทศไทย ร้อยละ  43 ของผู้ตอบแบบสอบถาม คิดว่า การค้าด้วยพาณิชอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่เป็นโอกาสต่อการส่งออกของสินค้าไทย ที่การค้าระหว่างประเทศยังไม่พึ่งพาระบบพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์เพราะสินค้าไทยที่ส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม และยังอาจจะเป็นเพราะสินค้าไทยอีกส่วนมาจากการรับจ้างผลิตที่มีคู่ค้าต่างประเทศอยู่แล้ว ส่วนร้อยละ 38 ให้ความเห็นว่าการค้าโดยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นโอกาสที่ดีเพราะไทยสามารถพึ่งพาการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนเพื่อการส่งออกได้ เพราะเป็นโอกาสในการเข้าสู่ตลาดได้ทั้งตลาดจีนและตลาดอื่นๆในภูมิภาค  เนื่องด้วยพาณิชอิเล็กทรอนิกส์เติบโตอย่างรวดเร็ว...

KIAT จับมือ UAC รุกพัฒนาตลาดขนส่งด้วย eTruck ใน สปป. ลาว

บมจ. เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ลงนามบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) เพื่อรับงานขนส่งเชื้อเพลิงขยะมูลฝอย (RDF – Refuse Derived Fuel) ด้วยรถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (eTruck) จาก Vientiane Waste Management Company Limited (VWM)...

กปน. มอบรางวัล “ยอดน้ำแอนด์เฟรนด์” ปี 2 ส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์น้ำ

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ณ อาคารอเนกประสงค์ การประปานครหลวง (กปน.) สำนักงานใหญ่ นางสาวฉวีวรรณ อุทัยพิบูลย์ รองผู้ว่าการ กปน. เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลโครงการรณรงค์การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ภายใต้กิจกรรม “ยอดน้ำแอนด์เฟรนด์” ปี 2 ให้แก่โรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนนนทบุรีพิทยาคม...

ททท. ร่วมกับเคทีซีผลักดันท่องเที่ยวยั่งยืน สนับสนุนโรงแรมและรีสอร์ตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ททท. ร่วมกับเคทีซีส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สนับสนุนโรงแรมและรีสอร์ตที่ผ่านมาตรฐานโครงการโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) กว่า 900 แห่งทั่วประเทศไทย ด้วยการออกแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น รวมถึงเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวรับรู้ถึงเป้าหมายของภาครัฐเรื่องการยกระดับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism Goals (STGS) และเข้าร่วมใช้งานแพลตฟอร์ม CF-Hotels เพื่อจัดเก็บข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Tourism รองรับเทรนด์โลกที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการสถานประกอบการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย ว่า ททท. ร่วมมือกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางและใช้จ่ายในช่วงกรีน ซีซั่น รวมถึงส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการที่พักที่ใส่ใจการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ททท....

เคทีซีร่วมสนับสนุน “โครงการตรวจสุขภาพตาฯ” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นางสาวจรัสศรี ศรีมณี (ขวา) ผู้อำนวยการสำนักบริหาร มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รับมอบเงินจำนวน 20,000 บาท สมทบทุน "โครงการตรวจสุขภาพตา เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาทางการเห็น" เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา จาก “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวเจนจิต ลัดพลี (ซ้าย) ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์กร ณ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ เขตราชเทวี เมื่อเร็วๆ นี้ “โครงการตรวจสุขภาพตา เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาทางการเห็น" นี้ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร จัดขึ้นเพื่อตรวจคัดกรองต้อกระจกและต้อหินให้กับประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 55 ปี ขึ้นไป และบุคลากรของมูลนิธิฯ รวมประมาณ 300 ราย โดยหากแพทย์วินิจฉัยว่าต้องได้รับการผ่าตัดต้อกระจก จะถูกรับเข้าเป็นผู้ป่วยในโครงการนี้ จำนวน 72 ดวงตา 

น้ำใจไม่มีหมด… จิตอาสาซีพีเอฟ-บริษัทในเครือซีพี ร้อยเรียงความดี ช่วยอุทกภัยพื้นที่ จ.สุโขทัย 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม” ร่วมกับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ ซีพีออลล์, ซีพี แอ็กซ์ตร้า แม็คโคร โลตัส, ข้าวตราฉัตร, ซีพีแรม, เจียไต๋ และทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมส่งกำลังใจให้พี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือต่อเนื่อง ล่าสุด นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รับมอบเนื้อหมูสด 100 กิโลกรัม และไข่ไก่สด 5,000 ฟอง จากซีพีเอฟ เพื่อส่งต่อให้แก่ โรงครัว...

“แม็คกรุ๊ป” ปิดปีบัญชี 2567 รายได้ทุบสถิติ!! ทะลุ 4 พันล้าน กำไร 713 ล้านบาท 

“แม็คกรุ๊ป” เดินหน้าทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง ปิดปีบัญชี 2567 ท็อปฟอร์มอีกครั้ง โชว์กำไร 713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8 % โกยรายได้ 4,054 ล้านบาทนิวไฮ ในรอบ 7 ปี บอร์ดอนุมัติปันผลงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ0.40 บาท หนุนทั้งปีปันผล หุ้นละ 0.90 บาท  ​นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานของบริษัทฯ สำหรับปีบัญชี 2567 (1 กรกฎาคม 2566 – 30 มิถุนายน 2567) มีกำไรสุทธิ 713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาทหรือ 10.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 644 ล้าน   โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 17.3% รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในระดับสูงที่ระดับ 64.2%  ทั้งนี้ในงวดปีบัญชี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า รวม4,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384 ล้านบาท หรือ 10.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 3,670 ล้านบาท ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่รายได้จากการขายของบริษัทฯ ที่มาจากสินค้าประเภทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 4 พันล้านบาท   นายเจมส์ กล่าวว่า “สิ้นปีบัญชี 2567 รายได้ของ บริษัทฯ ทะลุ4,054 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายช่องทางการขายออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านค้าปลีกของตนเอง ส่งผลให้บริษัทฯ มีช่องทางในการจัดจำหน่ายทุกช่องทางรวมทั้งสิ้น 573 สาขาเพิ่มขึ้น 27 สาขาจากปีก่อนหน้า การขยายกลุ่มสินค้าในหมวดหมู่ Non-Denim ที่เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งสินค้าท่อนบน ท่อนล่าง และแอกเซสซอรี ส่งผลให้สัดส่วน Non-Denim เพิ่มสูงขึ้นแตะ 70% ของยอดขายรวม และการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีอายุน้อยลง มาจากกลยุทธ์ทางการตลาด การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ส่งผลให้สัดส่วนกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันฐานลูกค้าสมาชิกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.7 ล้านราย รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการขายออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่รายได้และกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น” “รายได้จากการขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) ซึ่งมีสัดส่วน 68% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้ 66% ของรายได้รวม โดยปีนี้มีรายได้ 2,772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 357 ล้านบาทหรือ 14.8%, ห้างสรรพสินค้า มีสัดส่วน 19% ลดลงจาก 22% มีรายได้ 758 ล้านบาท ลดลง 5.1%, ร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) มีสัดส่วน 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 9% มีรายได้ 422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท หรือ 28.3% โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทาง TIKTOK สามารถทำยอดขายต่อเนื่องได้ดีมาก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป กล่าว นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตและมีกำไรสุทธิต่อเนื่อง...

กรมการขนส่งทางบกและบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ร่วมลงนาม MOU ในการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุทางถนน

วันนี้ (27 สิงหาคม 2567) เวลา 10.00 น. ณ กรมการขนส่งทางบก นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนางสาวพรรณี ปิติกุลตัง กรรมการผู้จัดการบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) แนวทางการแบ่งปันข้อมูล เพื่อแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงานและสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ​​นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งไม่เพียงสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเท่านั้น ยังส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การยกระดับใบอนุญาตขับรถโดยปรับปรุงหลักสูตรการอบรมผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถเพิ่มเติมเนื้อหาการคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception) การพัฒนามาตรฐานยานยนต์ การส่งเสริมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ เช่น โครงการนักเรียนรุ่นใหม่มีใบขับขี่ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้ต่างๆ พร้อมทั้งได้บูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ในการที่จะป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และในวันนี้การที่กรมการขนส่งทางบกและบริษัท กลางฯ ได้ร่วมบันทึกข้อตกลงแนวทางการแบ่งปันข้อมูลร่วมกัน จึงถือเป็นการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพในการบูรณาการด้านข้อมูลและการทำงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน ในการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยเฉพาะข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และนำมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อค้นหาสาเหตุรูปแบบพฤติกรรมการขับขี่ ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านผู้ขับรถ ด้านสภาพรถ และด้านสภาพแวดล้อม เพื่อให้หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางถนนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงนโยบาย การกำหนดแนวทางมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานต่างๆ...
Social profiles